สายพันธุ์นก

บึงบอระเพ็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ 132,737 ไร่ อยู่ในท้องที่สามอำเภอของจังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ กลางบึงมีตำหนักแพที่สร้างขึ้นครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน

เดิมบึงบอระเพ็ดแห่งนี้มีชื่อว่า “ทะเลเหนือ” หรือ “จอมบึง” เนื่องจากมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจระเข้ จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่ประมาณ 148 ชนิด พืช 44 ชนิด มีพันธุ์สัตว์ที่หายากได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร (พบครั้งแรกที่บึงบอระเพ็ด) ปลาเสือตอ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะมีนกเป็ดน้ำอพยพมาที่บึงแห่งนี้เป็นจำนวนมาก พื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร หรือ นกตาพอง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pseudochelidon sirintarae (Thonglongya, 1968) ชื่อสามัญ White-eyed River-Martin เป็นนกจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับ นกนางแอ่น พบครั้งแรกบริเวณบึงบอระเพ็ด เมื่อ พ.ศ. 2511 เป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิดตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

ลักษณะ
นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร มีความยาวจากปากจดหาง ประมาณ 12 -13 ซม. ความยาวเฉพาะหาง มากกว่า 9 ซม. ชาวบ้านในบริเวณที่ค้นพบ เรียกนกชนิดนี้ว่า “นกตาพอง” เนื่องจากลักษณะของตาที่มีวงขาวล้อมรอบ ลักษณะโดยทั่วไป ลำตัวสีดำสนิท มีเหลือบสีน้ำเงินเข้ม บางส่วน บริเวณหน้าผาก มีกระจุกขนสีดำ คล้ายกำมะหยี่ ขอบตาขาวเด่นชัด นัยน์ตา และ ม่านตาสีขาวอมชมพูเรื่อๆ ขนบริเวณตะโพกสีขาว ตัดกับสีของลำตัว ขนหาง มนกลม แต่ขนคู่กลางมีแกนยื่นออกมา เป็นเส้นเรียวยาวประมาณ 10 ซม. มองเห็นได้ชัดเจน บริเวณใต้คอสีน้ำตาลอมดำ แข้ง และ ขา สีชมพู

อุปนิสัย

อุปนิสัย แหล่งผสมพันธุ์วางไข่และที่อาศัยในฤดูร้อนยังไม่ทราบ ในบริเวณบึงบอระเพ็ดนกเจ้าฟ้าจะเกาะนอนอยู่ในฝูงนกนางแอ่นชนิดอื่นๆ ที่เกาะอยู่ตามใบอ้อ และใบสนุ่นภายในบึงบอระเพ็ดบางครั้งก็พบอยู่ในกลุ่มนกกระจาบและนกจาบปีกอ่อนกลุ่มนกเหล่านี้มีจำนวนนับพันตัว อาหารเชื่อว่าได้แก่แมลงที่โฉบจับได้ในอากาศ

แหล่งที่อยู่อาศัยและการแพร่กระจาย

อาศัยอยู่ตามดงอ้อและพืชน้ำในบริเวณบึงบอระเพ็ด พบเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น พบในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว

การค้นพบ

ในปี พ.ศ. 2510 นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ปัญจุบันคือสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย) ได้ทำการดักจับนกนางแอ่นจากบึงบอระเพ็ด เพื่อทำการศึกษาเรื่องการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ต่างๆ ในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ และในระหว่างเดือน มกราคม–กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 คุณกิตติ ทองลงยา ได้เป็นผู้ค้นพบนกตัวหนึ่งที่มีรูปร่างลักษณะแตกต่างจากนกนางแอ่นอื่นๆ ที่จับได้ นกตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่านกนางแอ่นทั่วๆไปมาก ขนเป็นสีดำคล้ำ ตาขาวและใหญ่ ปากและสะโพกสีขาว หางกลมมน ขนหางคู่กลางมีแกนยื่นออกมาอย่างชัดเจน

จากการตรวจสอบขั้นต้นยังไม่สามารถที่จะจำแนกนกชนิดนี้เข้ากับนกสกุลใดๆของประเทศไทยได้ ดังนั้น คุณกิตติ ทองลงยา จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างของตัวเบียน คือ เห็บ เหา และไร ของนก ส่งไปให้ สถาบันสมิทโซเนียน และ บริทิชมิวเซียม ช่วยตรวจและวิเคราะห์หาชนิดของนกดังกล่าว ผลก็คือมันมีเหาชนิดเดียวกับนกนางแอ่นเทียมสกุล Pseudochelidon ซึ่งพบในแถบซึ่งพบในแถบลุ่มน้ำคองโก แอฟริกา และจากนั้นได้ทำการเปรียบเทียบลักษณะอวัยวะต่างๆ ภายในของนกตัวนี้กับตัวอย่างนกนางแอ่นเทียมคองโก (Pseudochelidoninal eurystominal) จึงลงความเห็นว่านกตัวนี้จะต้องเป็นนกในสกุล Pseudochelidon อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากว่านกในสกุลนี้เคยมีเพียงชนิดเดียวคือ นกนางแอ่นเทียมคองโก ดังนั้นนกที่ค้นพบที่บึงบรเพ็ดนี้ นักปักษีวิทยาทั่วโลกจึงยอมรับว่าเป็นนกสกุล Pseudochelidon ชนิดใหม่ของโลก

นักปักษีวิทยาของเมืองไทยต่างมีความเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดา (พระยศขณะนั้น) ทรงเป็นผู้ที่สนพระทัยในเรื่องธรรมชาติวิทยาของเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงขอพระราชทานนามมาตั้งชื่อนกชนิดนี้ว่า “นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร” หรือ White-eyed River Martin (Pseudochelidon sirintarae)

สถานภาพในปัจจุบัน

อนุสาวรีย์นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรที่บึงบอระเพ็ด

นกเจ้าฟ้าหญิงสิริธร เป็นนกเฉพาะถิ่น (endermic species) ที่พบได้เพียงแห่งเดียวในโลก คือที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เป็นนกโบราณที่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้น้อย จึงมีเหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยมาก มีรายงานการค้นพบที่สามารถยืนยันได้เพียง 10 ตัวเท่านั้น และจากรายงานการพบเห็นครั้งหลังสุด ในปี พ.ศ. 2523 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 20 ปีแล้ว ที่ไม่ได้เห็นนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรอีกเลย และจากการจัดให้มีการประชุมของสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง สถานภาพทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย โดยกลุ่มนักชีววิทยาในประเทศไทย เมื่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2539 นั้น นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ได้ถูกจัดให้อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง

ปัจจุบัน IUCN และสำนักงานนโยบาย และแผนสิ่งแวดล้อม (2540) จัดนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically endangered) ซึ่งอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วจากประเทศไทยหรือจากโลก เพราะ หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีรายงานการพบนกชนิดนี้อีกเลย นอกจากนี้พระราชบัญญัติ คุ้มครองและสงวนสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ได้จัดให้เป็นสัตว์ป่าสงวนอีกด้วย

สาเหตุของการใกล้สูญพันธ์

นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรเป็นนกที่สำคัญในด้านการศึกษาความสัมพันธ์ของนกนางแอ่น นกชนิดที่มีความสัมพันธ์กับนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรมากที่สุด คือนกนางแอ่นคองโก (Pseudochelidon euristomina) ที่พบตามลำธารในประเทศซาอีร์ ในตอนกลางของแอฟริกาตะวันตก แหล่งที่พบนกทั้ง 2 ชนิดนี้ห่างจากกันถึง 10,000 กิโลเมตร ประชากรในธรรมชาติของนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรเชื่อว่ามีอยู่น้อยมาก เพราะเป็นนกชนิดโบราณที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน แต่ละปีในฤดูหนาวจะถูกจับไปพร้อมๆกับนกนางแอ่นชนิดอื่น นอกจากนี้ที่พักนอนในฤดูหนาว คือ ดงอ้อ และพืชน้ำอื่นๆที่ถูกทำลายไปโดยการทำการประมง การเปลี่ยนหนองบึงเป็นนาข้าว และการควบคุมระดับน้ำในบึงบรเพ็ดเพื่อการพัฒนาหลายรูปแบบ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลเสียต่อการคงอยู่ของพืชน้ำและต่อระบบนิเวศการอยู่อาศัยของนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธรเป็นอย่างมาก

อ้างอิง

อนุสาร อ.ส.ท. 24,7 (ก.พ. 27 ) 36
รศ.โอภาส ขอบเขต.1998, Bird of Bung Boraphet. Office of Environmental Policy and Planning.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org

บึงบอระเพ็ดเป็นทะเลสาปน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะที่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำรวมถึงสัตว์ป่าจำพวกนก จากการรายงานของ โอภาส (2534,2538) รวมทั้งการสำรวจของชมรมดูนกนครสวรรค์ ปี พ.ศ. 2527-2537 ทั้งนี้ไม่รวมถึงนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร พบว่ามีนกอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 187 ชนิด ใน 11 อันดับ (Order) 43 วงศ์ (Family) และ 114 สกุล (Genus) ในจำนวนนี้มีทั้งนกน้ำ นกชายน้ำ นกชายเลน นกล่าเหยื่อ และอื่น ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้คือ
นกประจำถิ่น (Resident) หมายถึง นกที่อาศัย หากิน สร้างรัง วางไข่ เลี้ยงลูกอ่อนและดำรงชีวิตอยู่ในบึงบอระเพ็ดลอดทั้งปี เช่น นกกวัก นกพริก นกอีแจว นกอีโก้ง นกกะปูดเล็ก และนกเป็ดแดงบางส่วน เป็นต้น

นกอพยพ (Visitor) หมายถึง นกที่อพยพเข้ามาอยู่อาศัยในบึงบอระเพ็ดเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วอพยพ กลับสู่ถิ่นเดิมต่อไป ส่วนใหญ่นกเหล่านี้จะอพยพเข้ามาในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ หรือช่วงฤดูหนาว เช่น เป็ดหางแหลม เป็ดลาย นกคูต และนกกระเต็นหัวดำ เป็นต้น ซึ่งไม่พบการทำรังวางไข่แต่อย่างใด

นกอพยพในที่นี้ยังรวมหมายถึงนกที่มาอาศัยบึงบอระเพ็ดเพียงชั่วขณะ อาจจะเป็นไม่กี่วัน ก่อนที่จะอพยพต่อไปยังที่อื่น ๆ หรืออาจจะเรียกว่า นกอพยพผ่าน (Passagemigrant) เช่น นกนางนวลธรรมดา นกนางนวลขอบปีกขาว และนกนางนวลเฮอริง เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงนกที่อพยพมาทำรังวางไข่ในบึงบอระเพ็ด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฤดูฝน เช่น นกอีลุ้ม นกแอ่นทุ่งใหญ่ เป็นต้น

นกทั้ง 187 ชนิดที่พบในบึงบอระเพ็ด ได้เสนอในที่นี้ทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นชนิดของนกที่มีภาพถ่าย ในส่วนที่สองเป็นชนิดของนกทั้งหมดรวมทั้งการจัดจำแนกได้ในหน้า 204- 211 ว่าอยู่ในอันดับ และวงศ์ใด ในหนังสือเล่มนี้ ได้เสนอเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับนกแต่ละชนิดประกอบด้วย ชื่อนกเป็นภาษาไทย ซึ่งเสนอเพียงชื่อเดียว เช่นเดียวกับชื่อสามัญ หรือชื่อภาษาอังกฤษ และชื่อวิทยาศาสตร์ โดยที่มาของชื่อต่าง ๆ ได้กล่าวไว้แล้วตั้งแต่ตอนต้น

ลักษณะและอุปนิสัย เป็นการกล่าวถึงอย่างกว้าง ๆ ไม่เน้นมากนัก ทั้งนี้เพราะต้องการให้ดูภาพถ่ายเป็นหลัก ส่วนการบรรยายเป็นเพียงองค์ประกอบเท่านั้น

การผสมพันธุ์ จะบ่งถึงฤดูการผสมพันธุ์ซึ่งในที่บ่งเฉพาะเดือน ลักษณะของรังอย่างคร่าว ๆ สีของไข่ จำนวนไข่ต่อรัง และระยะเวลาฟักไข่ โดยข้อมูลทั้งหมดเป็นนกที่ทำรังวางไข่ในประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะที่บึงบอระเพ็ดเท่านั้น ส่วนนกที่ไม่ทำรังวางไข่ในประเทศไทยจะบ่งว่า ไม่พบการทำรัง ซึ่งก็หมายถึง ไม่พบการทำรังวางไข่ในประเทศไทย

สถานภาพ จะกล่าวถึงการเป็นนกประจำถิ่น นกอพยพ ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่หมายถึง การเป็นนกประจำถิ่นหรือนกอพยพมายังประเทศไทย และอาจจะบ่งละเอียดในนกบางชนิดว่า เป็นนกอพยพมาทำรังวางไข่ การเป็นสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ทั้งนี้อ้างตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2537 ) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว และสัตว์ป่านอกประเภท ซึ่งหมายถึงนกที่ไม่ได้รับการสงวนและคุ้มครองตามกฎหมาย สถานภาพของนกยังกล่าวถึงการเป็นสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามหรือไม่ และเป็นประเภทใด ทั้งนี้อ้างตามการจัดสถานภาพตามสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (2540) ส่วนนกตัวใดที่อยู่ในภาวะที่ถูกคุกคามตามการจัดของ IUCN (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources) ก็จะบ่งไว้ชัดเจน นกที่ไม่อยู่ในภาวการณ์คุกคามใด ๆ ก็จะไม่พบรายละเอียดที่ว่านี้

ใส่ความเห็น